Scammer VS Call Center VS Contact Center : เข้าใจให้ต่าง เพื่อป้องกันภัยและยกระดับประสบการณ์ลูกค้า

Scammer VS Call Center VS Contact Center – Understanding the difference to stay safe and elevate customer experience with True Touch Contact Center Solutions

Scammer – ภัยใกล้ตัวระดับโลก ที่ซ่อนอยู่หลัง “เสียงปลายสาย”

ในยุคที่เทคโนโลยีเชื่อมโลกเข้าหากัน “เสียงปลายสาย” กลับกลายเป็นช่องทางหลักของมิจฉาชีพในการหลอกลวงผู้คน
รายงานจาก Global Anti-Scam Alliance (2024) ระบุว่า มูลค่าความเสียหายจาก โทรศัพท์หลอกลวง (Scam Calls) ทั่วโลกสูงกว่าหลายแสนล้านบาทต่อปี
และที่น่าตกใจคือ ผู้คนจำนวนมากยังแยกไม่ออกระหว่าง “Scammer Call” กับ “Call Center จริง”

Scammer คือกลุ่มที่แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร หน่วยงานรัฐ หรือบริษัทชื่อดัง เพื่อหลอกให้เหยื่อโอนเงิน หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว
พวกเขาใช้เทคนิค Social Engineering และ Deep Fake เสียง เพื่อให้เหยื่อ “เชื่อ” ว่ากำลังพูดคุยกับเจ้าหน้าที่จริงอย่างแนบเนียน

Call Center – จุดเชื่อมลูกค้า กับองค์กร (แต่ไม่ใช่ Scammer!)

แม้คำว่า “คอลเซ็นเตอร์” จะมักถูกเข้าใจผิดว่าเกี่ยวข้องกับ “แก๊งคอลเซ็นเตอร์”
แต่แท้จริงแล้วคือ ทีมงานบริการลูกค้า (Customer Service Agent) เป็นตัวแทนบริษัทที่ทำงานภายใต้ระบบมาตรฐานสากล เช่น ISO18295

คอลเซ็นเตอร์ ที่ถูกต้องจะมีขั้นตอน ยืนยันตัวตน บันทึกข้อมูล และรักษาความปลอดภัย อย่างเป็นระบบ

คอลเซ็นเตอร์ จริงจะ
✅ ติดต่อผ่านช่องทางที่เป็นทางการ (Official Number / Verified Channel)
✅ ไม่ขอข้อมูลส่วนตัวหรือรหัส OTP
✅ มีระบบบันทึกเสียงและตรวจสอบคุณภาพบริการ (QA)
✅ ดำเนินการตามนโยบายความปลอดภัยขององค์กร

ดังนั้น การรู้เท่าทันและแยกแยะระหว่าง “Scammer” กับ “คอลเซ็นเตอร์” จริง คือกุญแจสำคัญในการป้องกันภัยไซเบอร์ของผู้บริโภคในยุคนี้

Infographic แสดงความแตกต่างระหว่าง Scammer, Call Center และ Contact Center พร้อมแนวทางสร้างบริการลูกค้าที่ปลอดภัยและมีมาตรฐาน โดย True Touch

Contact Center – ก้าวต่อไปของการบริการที่ปลอดภัยและอัจฉริยะ

จากคอลเซ็นเตอร์ สู่ คอนแทคเซ็นเตอร์ — การพัฒนาเพื่อรองรับโลกที่ลูกค้าสามารถติดต่อได้หลายช่องทาง
ทั้งโทรศัพท์, แชท, อีเมล, และโซเชียลมีเดีย

คอนแทคเซ็นเตอร์ ยุคใหม่ไม่ได้เป็นแค่ “ศูนย์รับสาย” แต่คือ “ศูนย์กลางประสบการณ์ลูกค้า (CX Hub)” ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี AI, Voice Analytics และ Data Security

True Touch Contact Center ยกระดับมาตรฐานบริการด้วย
✔️ ระบบตรวจสอบความปลอดภัยและการยืนยันข้อมูลลูกค้า (Data Privacy & Authentication)
✔️ การใช้ AI Voice Analytics เพื่อวิเคราะห์ตรวจจับความผิดปกติของเสียงและอารมณ์
✔️ การฝึกอบรมพนักงานให้เข้าใจพฤติกรรม Scammer และการสื่อสารอย่างปลอดภัย

ผลลัพธ์คือ Contact Center ที่ “ให้บริการอย่างปลอดภัย” และ “สร้างความเชื่อมั่น” แก่ลูกค้าในทุกการติดต่อ

True Touch กับภารกิจ “คอลแทคเซ็นเตอร์ที่สร้างความเชื่อมั่นให้สังคม”

ด้วยประสบการณ์กว่า 20 ปีในการบริหาร คอนแทคเซ็นเตอร์

True Touch ไม่เพียงมุ่งมั่นให้บริการลูกค้า แต่ยังขับเคลื่อนภารกิจ “สร้างความปลอดภัยทางข้อมูล” และ “ยกระดับ CX อย่างยั่งยืน”

เราพัฒนา AI + Human-Centered Contact Center ที่ตอบโจทย์ทั้งประสิทธิภาพและความเชื่อมั่นของผู้บริโภค
เพราะในยุคที่ Scammer ใช้เทคโนโลยีหลอกลวงได้แนบเนียนขึ้น
การบริการที่โปร่งใส ปลอดภัย และมีมาตรฐาน คือเส้นแบ่งสำคัญระหว่างคำว่า “Trust” และ “Threat”

สนใจบริการคอนแทคเซ็นเตอร์ ครบวงจร ที่ทั้ง “ปลอดภัย” และ “ยกระดับประสบการณ์ลูกค้า”?

True Touch พร้อมเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ด้าน CX Outsourcing & Analytics
ที่ช่วยให้องค์กรของคุณ “ฟัง เข้าใจ และตอบสนองลูกค้าได้อย่างมั่นใจ” ในทุกช่องทาง

✅ ทีมบริการลูกค้าคุณภาพ (HR Outsourcing + Training)
✅ เทคโนโลยี Voice Analytics & VOC Solutions
✅ ระบบ Contact Center ครบวงจร มาตรฐาน ISO18295, ISO27001 และ COPC

เพราะ “ความเชื่อมั่นของลูกค้า” เริ่มต้นจาก “ทีมบริการที่ไว้ใจได้”

📞 โทร: +66(0)2088-8999
✉️ อีเมล: info@truetouch.co.th
🌐 เว็บไซต์: www.truetouch.co.th

True Touch – Serve your customers as if our own

❓ FAQ

Q1: Scammer ต่างจาก คอลเซ็นเตอร์อย่างไร?

A1: Scammer คือมิจฉาชีพที่แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ เพื่อหลอกให้เหยื่อเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวหรือโอนเงินโดยใช้กลวิธีเร่งรัดและสร้างความตื่นตระหนก
ในขณะที่ คอลเซ็นเตอร์ คือทีมบริการลูกค้าขององค์กรจริง ที่ติดต่อผ่านช่องทางทางการ มีระบบยืนยันตัวตน บันทึกข้อมูล และดำเนินงานภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล

Q2: จะรู้ได้อย่างไรว่าใครโทรมาจาก Scammer หรือ คอลแทคเซ็นเตอร์จริง?

A2: สามารถตรวจสอบได้โดย

  • เช็กหมายเลขโทรศัพท์ กับข้อมูลที่ระบุบนเว็บไซต์หรือช่องทางทางการขององค์กร

  • ไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวหรือรหัส OTP ให้กับผู้โทร

  • หากรู้สึกสงสัยหรือไม่มั่นใจ ให้ติดต่อกลับผ่านศูนย์บริการลูกค้าทางการเท่านั้น เพื่อยืนยันความถูกต้องและป้องกันการหลอกลวง

Q3: Cคอลแทคเซ็นเตอร์ ที่ปลอดภัยควรมีระบบแบบใด?

A3: คอลแทคเซ็นเตอร์ ที่ปลอดภัยต้องมีระบบบริหารจัดการข้อมูลและการให้บริการที่ได้มาตรฐาน เช่น

  • ระบบยืนยันตัวตน (Authentication) เพื่อป้องกันการสวมรอย

  • การเข้ารหัสข้อมูล (Encryption) เพื่อรักษาความลับของข้อมูลลูกค้า

  • ระบบตรวจสอบคุณภาพบริการ (QA) เพื่อควบคุมมาตรฐานการให้บริการอย่างต่อเนื่อง

    พร้อมทั้งปฏิบัติตามมาตรฐานสากล เช่น ISO18295, ISO27001 และ COPC เพื่อคุ้มครองข้อมูลและสร้างความเชื่อมั่นสูงสุดให้แก่ลูกค้า

Q4: True Touch มีแนวทางอย่างไรในการสร้าง “คอลแทคเซ็นเตอร์ ที่ปลอดภัยและเชื่อมั่นได้”?

A4: True Touch ผสานเทคโนโลยีอัจฉริยะอย่าง AI Voice Analytics, Sentiment Detection และ Data Security Platform
เพื่อให้ระบบ คอลแทคเซ็นเตอร์ ให้สามารถ

  • ตรวจจับบทสนทนาที่มีความเสี่ยง (เช่น การแอบอ้างหรือการขอข้อมูลผิดปกติ)

  • วิเคราะห์พฤติกรรมและอารมณ์ของลูกค้าแบบเรียลไทม์

  • แจ้งเตือนอัตโนมัติให้หัวหน้าทีม (Supervisor Alert) ให้หัวหน้าทีมควบคุมคุณภาพบริการได้ทันที

นอกจากนี้ เรายังมี Customer Protection Framework ที่ออกแบบเฉพาะเพื่อให้องค์กรสามารถ
✔️ สร้างระบบบริการที่โปร่งใส
✔️ สื่อสารอย่างปลอดภัย
✔️ และรักษาความเชื่อมั่นของลูกค้าได้อย่างยั่งยืน

เพราะการ “ป้องกัน Scammer” ไม่ใช่แค่การป้องกันภัย — แต่คือการสร้าง “Trust” ที่ทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นและเลือกใช้บริการคุณอีกครั้ง.

Q5: หากองค์กรต้องการเริ่มต้นพัฒนา คอลแทคเซ็นเตอร์ต้องทำอย่างไร?

A5: ติดต่อทีมที่ปรึกษาของ True Touch เพื่อร่วมกันประเมินระบบ คอลแทคเซ็นเตอร์ ปัจจุบัน วางแผนปรับปรุงกระบวนการทำงาน การฝึกอบรมทีมบริการ และการใช้เทคโนโลยี AI และระบบ Data Security มาใช้เพื่อยกระดับทั้ง Customer Experience (CX) และ ความปลอดภัยของข้อมูล ไปพร้อมกัน

True Touch พร้อมเป็นพาร์ตเนอร์ในการสร้าง คอลแทคเซ็นเตอร์ ที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และเชื่อมั่นได้ในระยะยาว.

📩 ติดต่อได้ที่ info@truetouch.co.th
🌐 www.truetouch.co.th

True Touch Call Center
en_USEnglish
Scroll to Top